บลูเบอร์รี่เป็นผลไม้สีฟ้า เนื้อนุ่ม หวานอมเปรี้ยว อุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการ และได้รับความนิยมมากในท้องตลาด เช่นเดียวกับผลไม้หลายๆ ชนิด บลูเบอร์รี่สามารถปลูกในกระถางที่บ้านได้เช่นกัน วันนี้เราจะมาแบ่งปันวิธีปลูกบลูเบอร์รี่กัน
1.ต้นกล้า
เลือกปลูกบลูเบอร์รี่ในกระถางที่บ้าน แนะนำให้เลือกต้นกล้าบลูเบอร์รี่ที่มีอายุ 2 ปีหรือ 3 ปี เพราะต้นกล้าเหล่านี้จะปลูกง่ายกว่าและรอดง่ายกว่า
2. สภาพแวดล้อมในกระถาง
บลูเบอร์รี่ในกระถางต้องการแสงแดดและความชื้นที่เหมาะสม สภาพแวดล้อมในการปลูกต้องมีการระบายอากาศที่ดี ควรเลือกดินร่วนซุยและอุดมสมบูรณ์ ระบายน้ำได้ดี ควรเป็นดินที่เป็นกรด และควรมีความเป็นกรดเล็กน้อย บลูเบอร์รี่ไม่เจริญเติบโตในดินที่เป็นด่างและไม่สามารถดูดซับสารอาหารได้อย่างเหมาะสม แนะนำให้ใช้กระถางขนาด 15 ซม. สำหรับต้นกล้าและกระถางขนาด 25 ซม. สำหรับต้นโตเต็มวัย
3. การปลูก
ก่อนปลูกให้วางต้นกล้าไว้ในที่เย็นและมีอากาศถ่ายเทประมาณ 2 ชั่วโมง จากนั้นจึงปลูกลงในดิน เมื่อปลูกให้วางหินเป็นชั้น ๆ ที่ด้านล่างของกระถางก่อน จากนั้นใส่ดินที่เตรียมไว้แล้ว ใส่ปุ๋ยรองพื้นทับบนดิน จากนั้นปลูกต้นกล้าลงในดิน จากนั้นโรยดินเป็นชั้น ๆ แล้วอัดดินให้แน่นเล็กน้อย จากนั้นรดน้ำหนึ่งครั้ง
4. การจัดการน้ำและปุ๋ย
ระบบรากของบลูเบอร์รี่นั้นตื้นและไวต่อการขาดน้ำ ดังนั้นกระถางจึงควรได้รับความชื้นและไม่มีน้ำขัง เมื่อใส่ปุ๋ยให้บลูเบอร์รี่ ปุ๋ยฟอสฟอรัสและโพแทสเซียมเป็นปุ๋ยหลัก
5. อุณหภูมิแสง
การเจริญเติบโตของบลูเบอร์รี่ต้องการแสงมาก และควรมีเวลาแสงมากกว่า 8 ชั่วโมงทุกวัน อุณหภูมิในฤดูการเจริญเติบโตควรอยู่ระหว่าง 16-25 องศา และอุณหภูมิในฤดูใบไม้ผลิ ฤดูใบไม้ร่วง และฤดูร้อนก็เพียงพอ ส่วนอุณหภูมิในฤดูหนาวจะต่ำ และจำเป็นต้องรักษาอุณหภูมิโดยรอบให้สูงกว่า 6 องศาเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาความเสียหายจากการแข็งตัว
6. การตัดแต่งแบบวิทยาศาสตร์
การเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วและการตัดแต่งกิ่งบ่อยครั้งก็เป็นหลักการเช่นกัน เพื่อให้แน่ใจว่าบลูเบอร์รี่จะมีผลผลิต หากมีกิ่งมากเกินไปและผลเล็กเกินไป ควรตัดแต่งอย่างเหมาะสม โดยเฉพาะหลังจากดอกเหี่ยวเฉา หากดอกเจริญเติบโตดี ควรตัดตาดอกออกอย่างเหมาะสม และตัดกิ่งที่ตายหรือมีโรคออกทันที
บลูเบอร์รี่มีหลายชนิด แต่ละภูมิภาคสามารถเลือกพันธุ์บลูเบอร์รี่ได้ตามความต้องการ
เวลาโพสต์ : 09-08-2024