ก่อนปลูกสตรอเบอร์รี่ ควรเลือกกระถางที่มีรูระบายน้ำ และใช้ดินร่วนซุยที่ร่วนซุย มีธาตุอาหารครบถ้วน และถ่ายเทอากาศได้ดี หลังจากปลูกแล้ว ควรวางกระถางไว้ในบริเวณที่อบอุ่นเพื่อให้มีแสงแดดเพียงพอ รดน้ำและใส่ปุ๋ยอย่างเหมาะสมตลอดช่วงการเจริญเติบโต ในช่วงระยะเวลาบำรุงรักษา ควรย้ายต้นไม้ไปไว้ในที่เย็นในฤดูร้อน เพิ่มปริมาณน้ำ และหลีกเลี่ยงการใส่ปุ๋ยเข้มข้นกับสตรอเบอร์รี่
สตรอเบอร์รี่กลัวน้ำท่วมจึงต้องใช้ดินที่มีการระบายอากาศและการระบายน้ำที่ดี โดยทั่วไปควรใช้ดินร่วนซุยที่มีธาตุอาหารสูงและถ่ายเทอากาศได้ดี ควรระวังอย่าใช้ดินเหนียวที่หนักเกินไป สตรอเบอร์รี่ไม่ต้องการกระถางมากนัก สามารถปลูกในกระถางพลาสติกหรือกระถางดินเผาได้ ควรแน่ใจว่ากระถางมีรูระบายน้ำและสามารถระบายน้ำได้ตามปกติเพื่อหลีกเลี่ยงการเน่าของรากอันเนื่องมาจากน้ำขัง
สตรอเบอร์รี่เป็นพืชที่ชอบแสง อุณหภูมิ และร่มเงา เหมาะแก่การปลูกในสภาพแวดล้อมที่อบอุ่นและร่มรื่น อุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับการเจริญเติบโตของพืชคือระหว่าง 20 ถึง 30 องศา และอุณหภูมิสำหรับการออกดอกและติดผลคือระหว่าง 4 ถึง 40 องศา ในช่วงการเจริญเติบโต ควรให้แสงเพียงพอเพื่อให้พืชออกดอกและติดผล ยิ่งมีแสงมากก็จะสะสมน้ำตาลได้มากขึ้น ทำให้ดอกไม้สวยงามและผลมีรสหวาน
สตรอเบอร์รี่ต้องการน้ำมากเป็นพิเศษ ในช่วงฤดูใบไม้ผลิและช่วงออกดอก สตรอเบอร์รี่ต้องการน้ำในปริมาณที่เหมาะสมเพื่อให้ดินในกระถางมีความชื้น สตรอเบอร์รี่จะแห้งและชื้น ในช่วงฤดูร้อนและช่วงติดผล สตรอเบอร์รี่ต้องการน้ำมากขึ้น เพิ่มปริมาณน้ำและฉีดพ่นต้นไม้ให้เหมาะสม ในฤดูหนาว คุณต้องควบคุมน้ำ ในระหว่างการเจริญเติบโตของสตรอเบอร์รี่ สามารถใส่ปุ๋ยบางๆ ได้ทุกๆ 30 วัน เพื่อส่งเสริมการเจริญเติบโตของพืช
ในช่วงระยะเวลาการดูแลรักษา ควรปลูกสตรอว์เบอร์รี่ในที่อบอุ่นและมีอากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อให้ได้รับแสงเพียงพอ ในช่วงฤดูร้อน ควรย้ายต้นไม้ไปไว้ในที่เย็น เพื่อหลีกเลี่ยงแสงแดดโดยตรงและไม่ให้ใบไหม้ ระบบรากของสตรอว์เบอร์รี่ค่อนข้างตื้น ควรใส่ปุ๋ยให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อไม่ให้ปุ๋ยเข้มข้นไปทำลายราก สตรอว์เบอร์รี่จะออกผลระหว่างเดือนมิถุนายนถึงกรกฎาคม เมื่อผลสุกแล้วจึงเก็บเกี่ยวได้
เวลาโพสต์ : 29 มี.ค. 2567