การเติบโตอย่างรวดเร็วของอีคอมเมิร์ซและค้าปลีกส่งผลให้ความต้องการโซลูชันโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพและทนทานเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นแรงผลักดันการเติบโตของตลาดพาเลทพลาสติก พาเลทพลาสติกมีน้ำหนักเบาและทนทาน จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับสภาพแวดล้อมที่มีการขนส่งปริมาณมากและมีความเร็วสูง
เหตุใดจึงควรเลือกพาเลทพลาสติก?
น้ำหนักของสินค้าหรือสินค้าที่ขนส่งระหว่างการขนส่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการกำหนดต้นทุนของผลิตภัณฑ์ขั้นสุดท้าย มักพบว่าต้นทุนการขนส่งของผลิตภัณฑ์สูงกว่าต้นทุนการผลิต ส่งผลให้กำไรโดยรวมลดลง พาเลทพลาสติกมีน้ำหนักน้อยกว่าพาเลทไม้หรือโลหะอย่างมาก ซึ่งคาดว่าจะดึงดูดให้บริษัทผู้ใช้ปลายทางหันมาใช้พาเลทพลาสติก
พาเลทคือโครงสร้างแนวนอนที่เคลื่อนที่ได้และแข็งแรง ใช้เป็นฐานสำหรับการประกอบ ซ้อน จัดเก็บ จัดการ และขนส่งสินค้า พาเลทวางหน่วยน้ำหนักบรรทุกไว้บนฐาน ยึดด้วยฟิล์มหด ฟิล์มยืด กาว สายรัด ปลอกพาเลท หรือวิธีการยึดอื่นๆ
พาเลทพลาสติกมีโครงสร้างแข็งแรงที่ช่วยรักษาเสถียรภาพของสินค้าระหว่างการขนส่งหรือการจัดเก็บ พาเลทพลาสติกเป็นเครื่องมือสำคัญในอุตสาหกรรมห่วงโซ่อุปทานและโลจิสติกส์ พาเลทพลาสติกมีข้อได้เปรียบเหนือพาเลทที่ทำจากวัสดุอื่นๆ มากมาย ปัจจุบันพาเลทประมาณ 90% ผลิตจากพลาสติกรีไซเคิล พลาสติกรีไซเคิลที่นิยมใช้มากที่สุดคือโพลีเอทิลีนความหนาแน่นสูง ในทางกลับกัน ผู้ผลิตบางรายใช้เศษวัสดุเหลือใช้หลังการผลิต เช่น ยาง ซิลิเกต และโพลีโพรพิลีน
พาเลทไม้ขนาดมาตรฐานมีน้ำหนักประมาณ 80 ปอนด์ ในขณะที่พาเลทพลาสติกขนาดใกล้เคียงกันมีน้ำหนักน้อยกว่า 50 ปอนด์ พาเลทกระดาษลูกฟูกมีน้ำหนักเบากว่ามาก แต่ไม่เหมาะกับการรับน้ำหนักมากเนื่องจากมีความแข็งแรงต่ำ น้ำหนักที่มากของพาเลททำให้ต้นทุนการขนส่งในระบบโลจิสติกส์ย้อนกลับสูง ส่งผลให้บริษัทต่างๆ เลือกใช้พาเลทน้ำหนักเบา เช่น พลาสติกและกระดาษลูกฟูก พาเลทพลาสติกเข้าถึงได้ง่ายกว่าและมีต้นทุนการขนส่งถูกกว่าพาเลทไม้เนื่องจากมีน้ำหนักเบากว่า ดังนั้น การที่บริษัทปลายทางให้ความสำคัญกับการลดน้ำหนักบรรจุภัณฑ์โดยรวมมากขึ้นจึงคาดว่าจะส่งผลดีต่อการเติบโตของตลาดพาเลทพลาสติกในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า
เวลาโพสต์: 29 พ.ย. 2567
